ผลลัพธ์แห่งความสำเร็จกับ Unicty

“ยูนิซิตี้” ได้ออกอาวุธใหม่ประำจำเดือนมีนาคม 2553 ด้วยภาพผลลัพธ์แห่งความสำเร็จใน BUSINESS OWNER MAGAZINE ฉบับเดือนมีนาคม 2553

นำขบวนด้วย Lamborghini LP560-4 Spyder สีเหลือง ราคาร่วม 40 ล้านบาท และ Porsche Boxster สีเหลือง ของ Presidential Triple Diamond คุณรสา คำแบน, Porsche สีแดงของ Presidential Diamond คุณพัตร์ชัย เรือนสิทธิ์ และ Porsche สีดำของ Presidential Diamond คุณภาวดล นาสารีรัตน์ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นรถที่บริษัทแจกให้ฟรี! ตามแผนการตลาดที่สุดยอดที่สุดของโลก

ตามด้วยขบวนเบ็นซ์ของของเหล่า Presidential ทั้งหลาย ที่ยกกันมาร่วมขบวนไม่ว่าจะเป็น SLK, E-Class, C-Class รวมถึง BMW Z4 ด้วย ซึ่งผลลัพธ์เหล่านี้เกิดขึ้นจากรายได้ในการทำธุรกิจโดยไม่ต้องอาศัย “กองทุน” ซึ่งสามารถใช้แทนคำพูดถึงความสำเร็จของนักธุรกิจ “ยูนิซิตี้” ได้เป็นอย่างดีโดยไม่ต้องให้เสียเวลาสงสัย

ผลลัพธ์นี้ตีพิมพ์ใน Business Owner Magazine Vol. 10 No. 113 March 2010 เชื่อว่าระบบยูนิเพาเวอร์คงจะจัดทำออกมาให้นักธุรกิจได้เป็นเครื่องมือในการขายผลลัพธ์ในเร็วๆ นี้

นักธุรกิจเครือข่ายผู้มีรายได้มากที่สุดในประเทศไทย

คุณ โจ ชวิช กิม ผู้นำแห่ง Unicity ได้ถูกจััดอันดับให้เป็นผู้ที่มีรายได้สูงสุด จากธุรกิจเครือข่าย และใช้เวลาสั้นที่สุดในบรรดาธุรกิจอื่นๆ
นี่คงเป็นบทสรุปได้เเล้วว่า ทั้งแผนการตลาด ผลิตภัณฑ์ และ ระบบ Unipower จะทำให้นักธุรกิจ Unicity ประสบความสำเร็จได้รวดเร็วกว่าบรรดาธุรกิจเครือข่ายอื่นๆ แน่นอน
คุณชวิช กิม ปัจจุบัน มีรายได้ 12 ล้านบาท ต่อเดือน (รายได้สูงที่สุดจากผู้ที่ทำธุรกิจเครือข่าย) เป็นแผนการตลาดที่ไม่มี Break Away คือเมื่อทำถึงจุดที่สูงสุดคือ Presidential Dimond ที่มีรายได้เดือนละ 4 ล้านบาท แล้ว แต่รายได้ยังไม่หยุด และยังสามารถ ทะยานสู่การเป็น triple Dimond ที่มีรายได้เดือนละ 8-12 ล้านบาทได้

ทำไมคุณหมอแนะนำอาหารเสริม

ทุกวันนี้คนเราเจอกับมลภาวะตั้งแต่อากาศที่หายใจ อาหารที่รับประทาน น้ำที่ดื่มทุกวัน ก่อให้เกิดปัญหาอนุมูลอิสระสะสมในร่างกายเป็นประจำทุกวันแบบไม่รู้ตัว หนำซ้ำอาวุธที่มนุษย์ มีไว้ต่อต้านอนุมูลอิสระจากธรรมชาติก็ร่อยหรอลงไปทุกที จะหาผักผลไม้ปลอดสารพิษได้จากที่ไหน ? แร่ธาตุต่างๆในดินที่ลดลงไปเรื่อยๆ จะทำให้ผลไม้มีคุณค่าเพียงพอได้อีกกี่ปี? เศรษฐกิจซบเงินซื้อผลไม้ก็ดูจะกลายเป็นของฟุ่มเฟือยสำหรับบางครอบครัว หลากหลายปัญหาที่ทำให้มนุษย์เป็นโรคเสื่อม ทั้งเกิดจากภายนอกและจากภายในคือความเครียดจากการทำงานก็ก่อให้เกิดปัญหากับระบบร่างกายเช่นเดียวกัน วันนี้อาจจะยังแข็งแรงอยู่ แต่ทุกอย่างมันกำลังก่อร่างสร้างตัวอยู่ในร่างกายของคุณนั่นเอง เมื่อใดเม็ดเลือดขาวแพ้ เมื่อนั้นก็จะแสดงอาการออกมา สารอาหารบำบัดหรือที่ในบ้านเราเรียกกันว่า “ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร” นั้นดูหลายคนจะขยาดและอยากวิ่งหนีเมื่อได้ยินคำนี้เพราะทราบว่าต้องเสียเงิน  จริงๆ แล้วมันเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง ในการป้องกันเราจากโรคเสื่อมต่างๆ ที่มีอันดับการตาย เป็นอันดับ 1-10 อยู่ทุกๆ ปี เช่น โรคหัวใจ โรคมะเร็ง โรคไขข้อ โรคหลอดเลือดอุดตัน โรคเบาหวาน ฯลฯ อีกสารพัด สาเหตุหลักที่เกิดโรคพวกนี้ขึ้นก็เพราะ “เซลล์อ่อนแอ” หรือ “เซลล์ขาดอ๊อกซิเจน” เพราะต้องสู้รบกับอนุมูลอิสระไม่ไหวนั่นเอง จึงเป็นสาเหตุที่เราต้องมอง “สารอาหารบำบัด” เพื่อป้องกันโรคเสื่อม ที่สะสมอยู่ในร่างกาย

ทำไมต้องใช้สารอาหารบำบัด ?
นพ.เรย์ ดี สแตรนด์ (Ray D. Strand, M.D.) ทำการวิจัยเกือบ 10 ปี
พบว่า คุณประโยชน์ของ “สารอาหารบำบัด” ที่มี คุณภาพสูง สามารถช่วยให้ร่างกายมีสมรรถภาพต่างๆ คือ

1. เพิ่มภูมิต้านทานโรค

2. เพิ่มศักยภาพให้ Antioxidant สารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันความเสื่อม ความชรา และมะเร็ง

3. ลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด โรคลมปัจจุบัน มะเร็ง ข้ออักเสบ ความเสื่อม ต้อกระจก อัลไซเมอร์ พาร์กินสัน หืด โรคปอด โรคจากความเสื่อมเรื้อรัง

4. ช่วยรักษาโรคที่มีความเสื่อมเรื้อรัง

จริงอยู่…คุณหมอบางท่านอาจจะบอกว่า “ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ก็พอแล้ว” ถูกต้อง พอแน่นอนถ้าคุณรู้ว่าต้องทานอย่างไร ในปริมาณเท่าไร แต่ทุกวันนี้ คุณหมอบอกต่อหรือเปล่าว่า ต้องทานมาก-น้อยแค่ไหน ? ถ้าไม่ทราบ..ลองตอบคำถามเหล่านี้ดู

ถ้า…คุณตอบว่า ใช่ ในข้อใดข้อหนึ่ง คุณสมควรกิน “สารบำบัด”

1. คุณไม่ได้กินอาหารดีๆ มีประโยชน์ทุกมื้อ เช่น ข้าวกล้อง ธัญพืช ผัก และผลไม้สดอินทรีย์ (ไร้สารพิษ 100%) เต้าหู้ สาหร่ายทะเล ปลา และอาหารทะเลไร้สารพิษ เป็นต้น

2. คุณไม่ได้ทานผักครบ 5 สีทุกมื้อ หรือทานผักผลไม้ครบ 2 กิโลกรัมทุกวัน (หรือ 80% ใน 1 วัน)

3. คุณทานอาหารเป็นประเภททอด ปิ้ง ย่าง ผัด เป็นส่วนใหญ่ และใช้ความร้อนกับน้ามันพืชเกิน 60˚C (ก่อให้เกิดอนุมูลอิสระมหาศาลตั้งแต่กระบวนการทำอาหาร จนถึงรับประทานเข้าไป)

4. คุณไม่ได้ออกกำลังกายอย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้งขึ้นไป

5. คุณอยากมี “สุขภาพดี 120 ปี ไม่มีป่วย” หรืออยากมีสุขภาพดี ดูดี อ่อนกว่าวัย 10- 30 ปี

อายุ40 ปี  เริ่มมีโรคเริ่มพบแพทย์
อายุ50 ปี  มีโรคเรื้อรังเช่น  โรคหัวใจเบาหวาน  ความดันโลหิตสูงต้องกินยาตลอดชีวิต
อายุ60 ปี  ต้องนอนโรงพยาบาลเป็นมะเร็งหรือผ่าตัดเสียเงินอีกหลายแสนบาท
อายุ70 ปี  ต้องนอนโรงพยาบาลนาน  2 – 3 เดือนหรือนอนICU
อายุ80 ปี  พิการอัมพาตนอนบนเตียงตลอดชีวิตหรือตาย

จริงๆแล้วคุณสามารถป้องกันได้ทั้งหมดด้วยการดูแลเซลให้แข็งแรงอยู่เสมอกระตุ้นเม็ดเลือดขาวให้คอยต่อต้านอนุมูลอิสระไม่ให้ส่วนไหนของร่างกายอ่อนแอแต่จะทำได้”สารอาหารบำบัด” จึงจำเป็น

เหตุผลในการเลือกกินผลิตภัณฑ์”สารอาหารบำบัด” ของคนทั่วไป  5 อันดับแรก

1. ดีต่อสุขภาพ  25.5 %

2. แข็งแรงไม่เจ็บป่วยง่าย  24.0 %

3. มีภูมิต้านทานโรค  12.5 %

4. มีประโยชน์ต่อร่างกาย  9.0 %

5. ไม่อยากอ้วน/ ควบคุมน้ำหนัก  4.0 %

ดร. เรย์ ดี เเสตรนด์

มักเเนะนาให้ผู้ประสบภาวะป่วยเรื้อรังได้บริโภคสารอาหารที่จำเป็นกับเซลล์เเละเนื้อเยื่อในระดับที่เหมาะสมเพื่อหยุดกระบวนการอักเสบ  ดังนั้นร่างกายควรจะได้รับวิตามินอีในระดับสูงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ภายใต้คอลเลสเตอรอลLDL เพื่อป้องกันผลจากการเกิดปฏิกิริยาอ๊อกซิเดชั่น  รวมถึงต้องได้รับวิตามินซีในระดับที่เหมาะสมเพื่อป้องกันendothelium จากการถูกทาลายเเละเพื่อสร้างวิตามินอีเเละglutathione เบต้า-เเคโรทีนเเละเเคโรทีนต่างๆที่จาเป็นในการปกป้องหรือขัดขวางเพื่อหน่วงกระบวนการเกิดเหล่านี้ให้เกิดขึ้นน้อยลงหรือไม่เกิดเลยทั้งนี้เพื่อให้ภายในเซลล์ของทุกๆคนมีระดับของglutathione เพิ่มมากขึ้นด้วยการเสริมสารอาหารต่างๆเหล่านี้ให้เเก่ร่างกายก่อนอาทิเช่น  วิตามินบี2 N-acetyl-L-cysteine เเละอื่นๆเพื่อลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคกลุ่มระบบไหลเวียนโลหิตหรือหลอดเลือดหัวใจ

ดร. เรย์ดีเเสตรนด์กล่าวอีกว่าสารอาหารเหล่านี้จำเป็นต้องทำงานร่วมกันเพื่อที่จะกำจัดหรือลดอาการอักเสบของหลอดเลือดเเละการปรับสมดุลของโลหิตดังนั้นผลสำเร็จจากการบริโภคสารอาหารต่างๆเหล่านี้เป็นอาหารเสริมคือกุญเเจสู่การบาบัดโรคได้อย่างหนึ่งเเละเหตุผลเหล่านี้เองการบำบัดในระดับหน่วยเซลล์จึงมีความสำคัญกับร่างกายอย่างยิ่งการมีร่างกายที่สมบูรณ์เเข็งเเรงไม่มีโรคภัยไข้เจ็บเป็นความสุขที่เราสามารถหาได้ด้วยการดูแลรักษาร่างกายลดเหตุปัจจัยในการก่อให้เกิดโรคต่างๆนายแพทย์เรย์ดีแสตรนด์(Ray D. Strand) ผู้เขียนหนังสือ……. “ What your Doctor doesn‟ know about Nutritional Medicine…May be Killing you”

ได้ทำการวิจัยและมีประสบการณ์รักษาผู้ป่วยมานานได้ชี้ให้เห็นว่าอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นในร่างกายเป็นตัวทำลายเซลล์ให้เสื่อมลงและก่อให้เกิดโรคภัยมากกว่า70 ชนิดเหตุปัจจัยในการเกิดอนุมูลอิสระในร่างกายได้แก่………. มลภาวะปนเปื้อนในอาหารน้าอากาศความเครียดสะสมการออกําลังหรือใช้แรงงานมากเกินพิกัดจะสังเกตได้ว่าปัจจัยต่างๆเหล่านี้หลายอย่างเราไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้เลยแต่ดร. เรย์ดีแสตรนด์ได้อธิบายถึงวิธีต่อต้านอนุมูลอิสระและใช้หลักการบำบัดรักษาในระดับหน่วยเซลล์ซึ่งพบว่าวิธีนี้เป็นการรักษาด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพให้เซลล์ด้วยสารอาหารที่จะเป็นทางให้ผู้ป่วยหายจากโรคต่างๆหลายโรคมามากมายซึ่งยาเคมีที่ใช้ในการแพทย์แผนปัจจุบันไม่สามารถกระทาการรักษาได้

นักวิทยาศาสตร์ที่ทางานวิจัยได้ค้นพบว่าต้นเหตุของการเป็นโรคต่างๆเกี่ยวกับระบบไหลเวียนโลหิตเช่นโรคหัวใจ ไตหอบหืด  ไขมันในเลือด ความดัน เบาหวาน สมองเสื่อม เเละอื่นๆ คือการอักเสบซึ่งส่งผลมาจาก oxiative stress ซึ่งเเพทย์เเละนักวิจัยมักจัดให้สารอาหารเหล่านี้อยู่ในจำพวกเดียวกับยา  นั่นหมายความว่าพวกเขาจะทำการทดสอบการตอบสนองของร่างกายต่อสารอาหารเพียงหนึ่งหรือสองชนิดต่อครั้งเพื่อพวกเขาจะได้เรียนรู้ถึงศักยภาพที่เเท้จริงของมัน  ด้วยเหตุนี้เเพทย์เเละนักวิจัยจึงพากันลังเลที่จะเเนะนำสารอาหารเฉพาะใดๆให้กับคนไข้ซึ่งมักเป็นข้อถกเถียงในวงการเเพทย์อยู่เสมอเเพทย์มักต้องการกำจัดข้อสงสัยที่มีอยู่กับการอาหารเเต่ละตัวว่าจะสามารถช่วยร่างกายได้จริงหรือไม่ทั้งที่ควรจะลงบันทึกเเละให้คำเเนะนำอาหารเสริมในรูปเเบบต่างๆดังนั้นพวกเขาจึงพลาดที่จะเข้าถึงความสำคัญทั้งหมดของสารอาหารที่สามารถบำบัดโรคเเละนั้นหมายถึงชีวิตของคุณเช่นกัน

ความจริงดังที่กล่าวมานี้นั้นหมายความถึงวิธีการที่การทำงานร่วมกันของสารต้านอนุมูลอิสระหากต้องการที่จะหยุดการเกิดoxidative stress ร่างกายจะต้องได้รับสารต้านอนุมูลอิสระที่เพียงพอ  เพื่อที่จะรับมือกับอนุมูลอิสระอีกทั้งสารต้านอนุมูลอิสระเหล่านี้จำเป็นต้องได้รับสารอาหารมาสนับสนุน  เพื่อให้ทำหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อเอาชนะ oxidative stress ที่เป็นพื้นฐานของสาเหตุของเซลล์ถูกทำลายโดยอนุมูลอิสระหรือโรคเสื่อมเรื้อรังซึ่งเป็นสาเหตุของโรคมากกว่าเจ็ดสิบชนิดเเละเป็นสาเหตุการตายของมนุษย์ในปัจจุบัน

ที่มา : หนังสือเมื่อคุณหมอไม่รู้จักอาหารเสริมบำบัดโรค..ความตายอาจ..กำลังครอบงำคุณ